เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงที่อยากเล่าเพื่อเป็นกำลังใจให้คุณแม่คุณพ่อทุกๆท่านที่เคยเจอประสบการณ์คล้ายคลึงกัน หรือ ที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่นะคะ
ย้อนไปเมื่อ 2 ปีกว่า….
มี้เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากมีลูกมาก และด้วยความที่มีลูกยากด้วยค่ะ
พอมี้ทราบว่ากำลังตั้งครรภ์แน่ๆแล้ว ก็ดีใจมากที่สุด
หลังจากนั้น ก็เริ่มศึกษาหาข้อมูล ดูแลครรภ์และตัวเองอย่างดี
หาคุณหมออย่างสม่ำเสมอ
.
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
ทุกอย่างดูไปได้อย่างสวยงาม
ไม่มีอาการใดๆให้น่าเป็นห่วง
.
จนถึงวันคลอด
ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีนะคะ
ดูจะไม่มีปัญหาอะไรเลย
ลูกเราแข็งแรงดีค่ะ
.
จนกระทั่ง
.
ได้เห็นหน้าลูกครั้งแรก
เรามีความไม่แน่ใจ และสงสัยว่า ลูกเราเป็นอะไรหรือปล่าว
ลูกสาวตัวน้อยของมี้ มีรอยเหมือนช้ำที่ใบหน้า สามจุดใหญ่
ซึ่งมี้ก็ไม่ได้คิดอะไร นึกว่าเป็ยรอยช้ำที่เกิดจากการทำคลอด
.
จนผ่านไป 1 วัน…
คุณหมอก็เข้ามาคุยค่ะ
บอกว่า ลูกสาวมี้ มีปานบนใบหน้า
ซึ่งเห็นได้ชัดมากๆ และ ถ้าเทียบขนาดก็ใหญ่พอดูเลยค่ะ
ประเด็น คือ เป็นลูกสาว แล้วมีปานที่หน้าใหญ่มาก
เข้าใจอารมณ์แม่ตอนนั้นมั้ยคะT_T
.
.
อีกอย่างคือ ความรู้เรื่องปานก็ไม่มีเลย เพราะตัวเองไม่เคยมีปานเลยไม่ได้สนใจเรื่องนี้
เวลานั้น ได้แต่นั่งก้มหน้า แล้วถามตัวเองอยู่แบบนั้นว่า
“ทำไมต้องเป็นลูกเรา” จะฝืนไม่ร้องไห้ ก็ทำไม่ได้ค่ะ
ทั้งๆที่ กำลังใจจากครอบครัวเพียบ
.
บอกเลย ช่วงเวลานั้น ได้แต่อึ้งค่ะ
คิดอะไรไม่ออก ได้แต่สงสารลูก
คิดไปต่างๆนาๆ ลูกต้องโดนเพื่อนล้อแน่ ลูกจะรับได้ไหม ลูกจะขาดความมั่นใจมั้ย ลูกจะมีคำถามถามเราเมื่อไร คิด วิตกไปมากๆ
.
เพราะอะไร เพราะเราไม่เคยเตรียมการ เตรียมใจคิดเรื่องนี้ไว้ก่อนเลยค่ะ
เห็นมั้ยคะ ข้อเสียของการไม่ฝึกจิตใจให้พร้อมรับกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน รับอะไรได้ช้า ทำให้ไม่มีสติ
.
จากนั้น ก็มีคุณหมอผิวหนังเด็กเข้ามาคุย
ซึ่งการได้รับรู้ข้อมูลอะไรบางอย่าง
ทำให้เหตุการณ์มันแย่ลงมาก
“หมอคิดว่า ยังรักษาไม่ได้ต้องรอโตเป็นผู้ใหญ่ก่อน”
“ปานชนิดนี้ ยิ่งโตจะยิ่งขยาย และสีก็จะเข้มขึ้นอีก”
พร้อมดูรูปประกอบที่ยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก
.
คือ บอกเลยว่า สำหรับคุณแม่หลังคลอด
ได้ยินเรื่องแบบนี้ พูดได้คำเดียว คือ จิตตกมากที่สุดค่ะ
.
ทำอะไรไม่ถูกเลย เข้าห้องพัก ร้องไห้เลย
.
ในขณะที่ทุกคนก็ช่วยกันหาข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่า
เราควรจะดูแลหนูน้อยของเราอย่างไรเรื่องนี้
.
ผ่านไปไม่นาน ก็เริ่มๆจะตั้งสติ ทำความเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น
และก็พยายามศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเตรียมรับมือกับมัน
และพยายามไม่คิดมากค่ะ เราต้องทำตัวเราให้สบายใจ เพราะเรามีภารกิจที่สำคัญอื่นๆอีกมากมาย
.
เวลาเจอปัญหาให้คิดไปในทางบวกไว้ก่อน หาข้อดีให้ได้
นึกเสมอว่า ทุกปัญหามีทางออก
แก้วันนี้ไม่ได้ ก็แก้พรุ่งนี้ว่ากันไป.
.
เท่านั้นยังไม่พอนะ…
บททดสอบต่อไป
สิ่งที่เผชิญต่อเนื่อง เมื่อเรามีลูกที่แตกต่างจากเด็กคนอื่นเนี่ย
คือ สั่งคมรอบข้างที่ไปพบเจอนี่ล่ะค่ะ
มี้อุ้มลูกไปไหนก็ตาม…
ไม่ว่าจะไป โรงพยาบาล
จะแวะซุปเปอร์มาเก็ต
หรือ ที่ไหนไหน
.
บอกเลยว่า 7 ใน 10 ถามมี้ทุกคนค่ะ เป็นเวลาหลายๆเดือน
เน้นเลยนะคะ ถามแต่ตัวแม่ ตัวพ่อไม่ค่อยโดนถามค่ะ ><‘
บ้างก็สุภาพ
บ้างก็ถามตรงๆ แบบไม่คิดถึงใจชั้นบ้าง ทำนองเนี้ยะ
เช่นว่า พี่ๆ ทำไมน้องหน้าดำจัง / ทำไมหน้าน้องเป็นแบบนี้
บอกเลยนี่แค่ตัวอย่าง
มี้โดนมาหลากหลายค่ะ
จากไม่ชอบ วิตก กลายเป็นคนมีภูมิต้านทานล่ะ 555
อยากรู้อะไรถามมาค่ะ เดี๋ยวตอบให้ฟัง
.
ถึงจุดนี้
คุณแม่ทุกคนต้องเข้มแข็งเพื่อตัวเองและลูกนะคะ
ต้องคิดในแง่ดี พยายามเข้าใจคนอื่นให้มากที่สุดค่ะ
คิดซะว่า เค้าไม่เคยเห็นก็อยากทราบแค่นั้นพอเลยค่ะ
ไม่ต้องคิดลึก คิดมาก คิดซ้ำๆไปๆมาๆ ไม่เอานะคะ
.
เรื่องไหนที่ควรคิดให้น้อย เราต้องหัดให้ใจเราคิดน้อยๆไว้นะคะ
เราถึงจะมีความสุขค่ะ
.
ส่วนกลับกันถ้าเราเป็นฝ่ายที่ไปเจออะไรแบบนี้
.
เช่น ในกรณีที่เราได้ไปพบเด็กคนนึงที่มีความแตกต่างในอะไรบางอย่าง บางครั้งถ้าจังหวะไม่เหมาะเราก็ไม่สมควรไปถามเค้านะคะ เพราะอะไรคะ
เพราะคุณจะไม่ทราบเลยว่า จริงๆเค้าพร้อมหรือไม่พร้อมที่จะพูด และ มันอาจจะเป็นการตอกย้ำในสิ่งที่เค้าเหล่านั้นกำลังหาทางออกไม่ได้ หรือ กำลังกังวลใจอยู่ ไม่ใช่เรื่องของเรา เราก็เฉยๆไปดีกว่าเนอะ^^
.
ประเด็น คือ อยากให้ทุกคนเห็นถึงแก่นของเรื่อง
ในเรื่องของการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันอย่างไร
เราควรทำอย่างไรบ้างที่จะทำให้เราอยู่ได้อย่างมีความสุข
.
เรื่องเล่าของมี้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่สุด ใช่ อาจจะมีเพื่อนๆที่มีปัญหาที่ยิ่งใหญ่กว่าที่มี้เจอ มี้อยากบอกว่า
มี้เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่กำลังเผชิญกับอะไรบางอย่างที่ทำให้ทุกข์ใจนะคะ
จำไว้ว่า
“ทุกปัญหามีทางแก้เสมอ”
“ความเข้มแข็งสำคัญ เราต้องทำให้ได้”
“คิดบวกเข้าไว้ค่ะ แล้วจะดีต่อตัวเราเอง”
.
ขออัพเดทกันหน่อยน้า^^
.
ปัจจุบันลูกสาวมี้ 2 ขวบ 8 เดือนแล้ว
ได้ทำการรักษาปานแต่กำเนิดเรียบร้อยแล้วค่ะ หน้าใสกิ๊ง ^^
.
ตอนต่อไป มี้จะมาแชร์ประสบการณ์การทำการรักษาที่อยากนำมาเล่านานแล้วให้ฟังนะคะ ว่า 2 ปีกว่าที่ผ่านมาว่า มีวิธีการรักษากันอย่างไร
.
บอกเลยว่า “ปานรักษาได้นะคะ”
.
ติดตามบทความครั้งหน้าได้เร็วๆนี้นะคะ แล้วเราเจอกันค่ะ
.
มี้แพร
#สารพันปัญหาการเลี้ยงลูก
#mommycoach
============================
ติดตามบทความอื่นๆของเราได้ที่^^
.
FB: สารพันปัญหาการเลี้ยงลูก
https://www.facebook.com/saraphanpunha
แอดมาคุยกันได้เลยนะคะ^^
.
✅Line: http://line.me/ti/p/%40mameeprae
.