เทคนิคง่ายๆ ฝึกนั่งคาร์ซีทยังไงให้สำเร็จ‬

“ลูกจะทำได้หรือไม่ได้ หลักๆ คือ อยู่ที่พ่อและแม่ ไม่ใช่ลูก”
บทความนี้ มี้จะมาให้ข้อมูลกับคุณพ่อคุณแม่ เรื่องการนั่งคาร์ซีท…
ทุกวันนี้มี๊สบายมากค่ะ ลูกขึ้นรถ ก็จะขึ้นนั่งคาร์ซีทเอง นอกจากมี๊ได้พักบ้างแล้ว เวลาไปไหนมาไหนกันสองคนสะดวกมากค่ะ ไม่ต้องคอยกังวัลเรื่องความปลอดภัย สบายใจหายห่วงค่ะ

ทำไมต้องนั่งคาร์ซีทด้วย?
นั่งแล้วช่วยอะไร?
ทำยังไง…ลูกก็ไม่ยอมนั่งคาร์ซีท?
.
.
หลายๆคนมีคำถามที่เกิดขึ้น มี้แพรจะช่วยแชร์ข้อมูลให้คุณพ่อคุณแม่ทราบกันนะคะ
แล้วการฝึกนั่งคาร์ซีทอย่างไรให้สำเร็จ ตามสไตล์มี้แพร ที่มี้แพรทำ ทำยังไง…มันก็มีขั้นตอน มีวิธีอยู่ค่ะ
ขอเล่าง่ายๆ สั้นๆ แบบนี้นะคะ
.
✅การนั่งคาร์ซีทสำคัญแค่ไหน จำเป็นหรือไม่
สำหรับมี้แพร จำเป็นมากๆๆๆ เลย คือ ปลอดภัย สะดวก และ สบายใจ

ปลอดภัย คือ ลูกปลอดภัยเวลานั่งรถเดินทางไปกับแม่
สะดวก คือ ไปไหนมาไหนกับแม่ สองคนได้ ไม่ต้องพึ่งพาใคร // ถ้ามีคุณพ่อขับรถให้ แม่ก็สบาย ได้พักไม่ต้อง มานั่งอุ้ม
สบายใจ คือ แม่สบายใจว่าลูกจะปลอดภัย ไปไหนก็มั่นใจ มีสมาธิขับรถ
.
.

งั้นเรามาเข้าวิธีที่มี้แพรฝึกลูกสาวเลยว่าทำอย่างไรนะคะ คุณพ่อคุณแม่ก็ลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ

เทคนิคง่ายๆ ฝึกนั่งคาร์ซีทยังไงให้สำเร็จ

1) “ฝึกยิ่งเร็วยิ่งดี ยิ่งโตจะยิ่งยาก” ฝึกได้เลยตั้งแต่เกิด ลูกสาวมี้ออกจากรพ.ก็นั่งคาร์ซีทกลับบ้านเลยค่ะ ลูกเพิ่งเกิดตัวยังเล็ก เราก็หาผ้านุ่มมารองให้ปรับที่นั่งให้สบายสำหรับลูก

2) มี้แพรใช้วิธีละมุนละม่อม ไม่ได้โหดมากนะ

กรณี ยัง baby อยู่
ถ้าลูกร้องงอแง มี้จะอุ้มออกมา comfort คือ ทำให้ลูกสบายใจก่อน แล้วให้ check list ปัจจัยหลักๆของเด็กก่อน เช่น
>หิวมั้ย?
>ฉี่ หรือ อึมั้ย?
>ร้อนมั้ย?

ถ้ามีสามข้อนี้ มี้จะทำให้ลูกอิ่ม สบายเนื้อสบายตัวก่อนแล้วจะพากลับไปนั่งคาร์ซีท คือ อ่อนโยนแต่มี้ไม่ได้อ่อนแอนะคะ555 เราต้องดูเหตุด้วยนิดนึง ไม่ใช่เอะอะจะเป็นจะขาโหด

ถ้าเราเชคแล้วว่า ทุกอย่าง perfect ดี มี้ก็จะใช้ตัวช่วยอื่นๆ เช่น ของเล่น เปิดเพลง พูกคุย เบี่ยงเบนไป แล้วก็คุยกับลูกทุกวัน ว่า นั่งแล้วปลอดภัย เด็กต้องนั่งคาร์ซีท คือ พูดไปเลย ฟังรู้เรื่องมั้ยไม่รู้ แต่มี้ถือว่า มี้ค่อยๆปลูกฝัง บอกลูกทุกครั้ง ทำแบบนี้เสมอ

กรณีแบบ ทุกอย่าง perfect นะ condition ลูกดีหมด ประเมินแล้วว่า “ร้องเพราะว่าหนูไม่ชอบ ไม่อยากนั่ง”แล้วลูกยังร้อง ไม่ต้องเอาลูกออกจากคาร์ซีทนะคะ นั่งไปนั่นแหละค่ะ อยากร้องร้องไป แม่อดทนเสียงเอา เดี๋ยวซักพักก็หยุด จะหยุดร้องเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคน ลูกมี้เคยร้องนานกว่า 35 นาที มี้ก็ให้นั่งไปค่ะ โชคดี ลูกเรียนรู้เร็ว เป็นแบบนี้ครั้งสองครั้งก็ค่อยๆร้องสั้นขึ้น จนไม่ร้องแล้วทุกวันนี้
ใจพ่อแม่ต้องอดทนมาก ย้ำ ว่ามาก เพราะเสียงงร้องลูกมันทรมานจิตใจพ่อและแม่มากๆ มากจนบางครั้งอ่อนแอ จนกระทั่งฝึกลูกไม่ได้นั่นแหละค่ะ

ถ้าลูกโตพอที่จะคุยรู้เรื่อง

มี้ check list แล้วถ้าครบ ลูกโอเคดี แต่อยากออกมาเล่น ถ้ามี้ขับรถเอง มี้ไม่เคยยอมนะ จะใช้วิธีอธิบาย แล้วจบ รอลูก calm down บางครั้งถ้ามากๆจนมี้ก็ไม่ไหวจะหาที่จอดรถ แล้วหยุดพัก พาลูกผ่อนคลาย แล้วค่อยพากลับไปนั่งคาร์ซีทใหม่
ถ้าลูกดูไม่โอเค ดิ้นสุดพลัง จะใช้เทคนิค “ตกลงกันก่อน”
เช่นว่า ถ้าแม่ขับรถต้องหยุดรถก่อนนะ
มามี้ให้หนูออกมาพัก 5 นาที ออกมานั่งกับแม่ 5 นาที แล้วต้องกลับไปนั่งคาร์ซีทนะ ถ้าไม่ตกลงก็ไม่ให้ออก ถ้าออก แล้วไม่ทำตามข้อตกลง จะทำโทษโดยการงดกิจกรรมที่ชอบ แล้วคุยจนกว่าจะยอมขึ้นไปนั่ง ถ้าคุยไม่รู้เรื่อง มี้จับแน่นกลับเข้าไปในคาร์ซีทเลย แล้วดุเสียงเข้มเลย ว่ายังไงก็ต้องนั่ง ไม่นั่งไม่ได้ แล้วแม่ต้องกลับไปขับรถแล้ว บอกเลยว่าอันนี้ มี้โหดมาก คือ เราไม่อนุญาต คือ ไม่อนุญาต ลูกต้องเชื่อฟังแม่

บอกเลยว่า เคยใช้การ์ตูนช่วยนะ เวลาเหนื่อยและไม่ไหวจริงๆ แต่พยายามไม่ใช้ เพราะรู้ๆกันว่า มันไม่ใช่วิธีที่ดีนักหรอก อย่างไรก็แล้วแต่ เราดูความจำเป็นนะ ถ้าไม่ใช้ได้ อย่าใช้เลย เพราะลูกจะติด ต้องร้องขอเรื่อยๆ ปวดหัวหนักกว่าเดิม

Tips
หาเพลงที่ลูกชอบมาเยอะๆ CD นิทาน ร้องเพลง เต้นไปกับลูก ชวนลูกเล่น ทำไปค่ะ ถ้าลูกเบื่อ เรานี่แหละที่ลูกต้องการนะคะ

มี้อยากเล่าว่า กว่ามี้จะผ่านจุดลูกนั่งคาร์ซีทได้ ขึ้นไปนั่งเองได้ คุยรู้เรื่อง ก็ผ่านหลายๆเหตุการณ์ที่ท้าท้าย และ ยากลำบากมาเหมือนกันค่ะ แต่สุดท้าย ลูกจะทำได้หรือไม่ได้ หลักๆ คือ อยู่ที่พ่อและแม่นะ ไม่ใช่ลูก
ย้ำ เสมอ ว่า เด็กๆ อ่ะ เรียนรู้ไว้มากค่ะ นิสัยเด็กแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน บางคนทดสอบพ่อแม่มากๆ ก็ไม่ยอมง่ายๆ ก็มี

เพราะฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่ตั้งใจนะคะ อดทนและเข้มแข็งนะคะ มี้เข้าใจมากๆ ว่าเสียงร้องลูก มันช่างบาดหัวใจเราจริงๆ เราไม่ได้ทรมานลูกนะคะ เราฝึกลูก ถึงบอก เรารู้ว่า เมื่อไรควรละมุนละม่อม และ เมื่อไร ควรเด็ดขาด

ก่อนที่จะยาวเกินไป มี้จะเล่าวิธีการเลือกคาร์ซีทยังไง ในครั้งหน้าแล้วกันนะค้า แล้วกลับมาคุยกันครั้งหน้านะคะ

มี้ ทำได้ มี้เชื่อว่า ทุกคนก็ทำได้ค่ะ
สู้ต่อไปนะคะ มนุษย์แม่ มนุษย์พ่อ

ด้วยรักค่ะ

มี้แพร

=======
อย่าลืม…ติดตามสารพันปัญหาการเลี้ยงลูก และการแก้ไขปัญหาเชิงบวกได้ที่
Fanpage: www.facebook.com/saraphanpunha

มีหลากหลายช่องทางมาแลกเปลี่ยน พูดคุยกันได้เลยนะคะ
มี้แพร ยินดีรู้จักคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านค่า
FB:Prae Vongg
IG:mamee_prae

=======